Promotion Motor Expro 2012

โปรโมชั่น งานมอเตอร์เอ๊กซ์โป (Motor Expo 2012)
Motor Expo 2012

พิเศษ! ช่วงมอเตอร์เอ๊กซ์โป 2012
วันที่
29 พ.ย. – 10 ธ.ค. 55

จีพีเอสติดตาม สำหรับรถยนต์ใหม่ป้ายแดง หรือมอเตอร์ไซค์
จีพีเอสติดตามรถยนต์ จีพีเอสติดมอเตอร์ไซค์
1. รุ่น
FM1100   ราคาพิเศษ
6,900 บาท (รวมติดตั้ง)    จำนวนจำกัด เพียง 50 คัน เท่านั้น!!!
@ ไม่มีรายเดือน
@ ส่งตำแหน่งผ่าน sms ดูผ่าน iPhone, iPad, Galaxy Note หรือ smart phone
@ รองรับ SIM ทุกค่าย ทั้ง AIS, DTAC และ TRUE
@ สินค้ารับประกัน 1 ปี (เสียเปลี่ยนเครื่องใหม่ ไม่ต้องซ่อม)

จีพีเอสติดตามรถ รุ่น FM1100

จีพีเอส รุ่น FM1100 จากยุโรป

 

จีพีเอสติดตาม สำหรับรถยนต์ใหม่ป้ายแดง
จีพีเอสติดตามรถยนต์ จีพีเอสติดตามรถ
2. รุ่น MVT-380  
ราคาพิเศษ
8,000 บาท (รวมติดตั้ง)     จำนวนจำกัด เพียง 30 คัน เท่านั้น!!!
@ ฟรี! รายเดือนตลอดชีวิต ดูแบบ Real-Time
@ ดูโปรแกรมผ่าน PC, Notebook, iPhone, iPad, Galaxy Note หรือ smart phone
@ หาตำแหน่งได้ทั้งโปรแกรม และ sms สะดวกมาก เพียงแค่โทร ก็ได้ตำแหน่ง
@ รองรับ SIM ทุกค่าย ทั้ง AIS, DTAC และ TRUE
@ สินค้ารับประกัน 1 ปี (เสียเปลี่ยนเครื่องใหม่ ไม่ต้องซ่อม)

จีพีเอสติดรถ รุ่น MVT-380 ฟรี! ติดตั้ง

จีพีเอส รุ่น MVT380 ยอดนิยม

 *** จำกัดเพียง 1 เครื่อง ต่อผู้ซื้อ 1 คน เท่านั้น ***

ระยะเวลา โปรโมชั่น ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 2555 หรือเมื่อสินค้าหมด

สนใจ โทร. 081-932-3520 (AIS) หรือ 081-483-3843 (DTAC)
อีเมล gps@panteethai.com

 เว็บไซต์ งานมอเตอร์เอ๊กซ์โป: http://www.motorexpo.co.th/

จีพีเอสจากยุโรป รุ่น FM1100 ตอนที่ 2

จีพีเอสจากยุโรป รุ่น FM1100 GPS Tracker ตอนที่ 2
บทความโดย จีพีเอส แผนที่ไทย.คอม

ภายใน FM1100 GPS Tracker

มาชมโฉมภายในของ จีพีเอสติดตาม จากยุโรป รุ่น FM1100
เมื่อเปิดกล่องออก ก็จะพบกับแผงวงจรขนาดเล็ก พร้อมกับช่องใส่ SIM ที่ออกแบบมาแบบให้เสียบ SIM เข้าโดยไม่มีฝาปิด แต่แน่น

รูปภายใน FM1100 GPS Tracker

รูปภายในของ GPS Tracker รุ่น FM1100

ดูความเงาของตะกั่วก็รู้ว่าการบัดกรี และยึดตัวอุปกรณ์ทำได้ดีทีเดียว
และเมื่อผลิกอีกด้านของแผ่นวงจร ก็พบกับหัวใจของเจ้ากล่องนี้กันเลย
นั้นคือ Chipset ของ GPS และ GSM

รูปภายในของ GPS Tracker รุ่น FM1100

Chipset ของ GPS Tracker รุ่น FM1100

เมื่อศีกษาจากคู่มือ ของ FM1100 ประกอบ เราก็จะพบว่า ตัว Chip ที่มีคำว่า “TELTONIKA” นั้น มันก็คือ GSM/GPRS module แบบ Quad band รุ่น TM11Q ของ Teltonika
พูดภาษาทั่วไป ก็คือมันรองรับ ความถี่ย่าน 850 / 900 / 1800 / 1900MHz. ของ DTAC, AIS และ TRUE  ซึ่งสรุปว่าเครื่องจีพีเอสรุ่นนี้ รองรับ SIM จากทุกค่าย ที่มีจำหน่ายในเมืองไทย

GPS & GSM Chipset ของ GPS Tracker รุ่น FM1100

GPS & GSM Chipset ของ GPS Tracker รุ่น FM1100

และพระเอกของเครื่องที่เป็น GPS Chipset ก็ต้องตัวนี้ Ublox ที่ตะแคงให้เห็นอยู่บนสุดของแผ่นวงจร จากค่าย Ublox อันโด่งดัง (ไม่ใช่ ยูบ๊อง น่ะครับ … ยูบ๊อกซ์) โดยมีภาครับ 65 channels และมีความไวในการรับอยู่ที่ -161dB ครับ

อุปกรณ์ใน 1 ชุด ของจีพีเอส รุ่น FM1100 ประกอบด้วย
-ตัวเครื่อง FM1100
-สาย Input/Output แบบ 2 x 5 connection pins
-เสาอากาศ GPS
-เสาอากาศ GSM
-สายเคเบิล USB
-คู่มือสำหรับดาวน์โหลด Driver และ Configuration program

และขนาดของเครื่องจีพีเอส รุ่น FM1100

ขนาดของ GPS Tracker รุ่น FM1100

ขนาดของ GPS Tracker รุ่น FM1100

ดูๆ แล้วก็น่าใช้มาก เพราะตัวเครื่องรองรับ การทำงานผ่านระบบ GPRS และ SMS ทำให้ผู้ที่ไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน สามารถเลือกใช้แบบ SMS ซึ่งก็จะประหยัดค่าใช้จ่าย แต่สามาถปกป้องและติดตามทรัพย์สินอันเป็นที่รักได้

ดูจากขนาดแล้ว น่าที่จะนำไปใช้กับรถมอเตอร์ไซค์มากๆ เลย ว่าแต่ราคาขายจะสูงถึง 7-8 พันบาทหรือเปล่า?! เพราะเทียบกับราคารถ มันก็ดูจะแพงไป ไม่เหมือนกับใช้ในรถยนต์เพราะดูคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งเป็นจีพีเอสที่สามารถใช้ได้ใน รถขนส่ง รถส่วนตัว รถเช่า รถแท็กซี่ รถบรรทุก เป็นต้น

แล้วถ้ามีคนขายสัก 5 พันบาท จะมีคนสนใจม่ะ ?!?!

 

จีพีเอสจากยุโรป รุ่น FM1100 GPS Tracker

จีพีเอสติดตาม รุ่น FM1100 จากยุโรป ตอนที่ 1
บทความโดย จีพีเอส แผนที่ไทย.คอม

FM1100 GPS Tracker

รูปที่ 1 GPS Tracker รุ่น FM1100 กับขนาดที่เล็ก

มีมาให้ยลโฉมกันแล้วสำหรับจีพีเอสติดตามจากค่ายยุโรป

จากรูปที่ 1 คือ GPS Tracker รุ่น FM1100 จากยุโรป ผลิตโดยประเทศลิทัวเนีย
ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก จะพบว่าขนาดตัวเครื่องมีขนาดเล็กมาก พอๆ หรือเล็กกว่า GPS รุ่นพกพา บางรุ่นเสียอีก แต่สำหรับรุ่น FM1100 นี้เป็นจีพีเอสสำหรับรถยนต์น่ะครับ อย่าเข้าใจผิด
FM1100 ถือว่าเป็นจีพีเอสติดตามรุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด ในบรรดาพี่น้อง ไม่ว่าจะเป็น FM4200, FM2200 จาก Teltonika

การออกแบบให้มีลักษณะเล็กขนาดนี้ ทำให้ง่ายต่อการซ่อนภายในรถยนต์ ประหยัดพลังงาน มีสายอากาศ GSM และ GPS อยู่ด้านนอก (เรียกว่า External Antenna)
แต่เครื่องรุ่นนี้ไม่มี Battery สำรองภายใน! ซึ่งก็ต้องแลกกันระหว่างความเล็ก กับไฟสำรอง

โดยปกติ รถยนต์ที่จีพีเอสติดตามที่ไม่เน้นป้องกันการโจรกรรมแล้ว Battery สำรองมักไม่ใช่ปัญหา เพราะเครื่องจีพีเอสจะใช้ไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์
แต่หากเป็นรถใหม่ ป้ายแดง หรือรถที่เน้นป้องกันการขโมยล่ะก็ต้องคิดหนัก เพราะหากถูกถอดแบตเตอรี่ ก็หยุดส่งสัญญาณ “จบข่าว

ฉะนั้นหากเราจะต้องเลือกรุ่นของจีพีเอสติดตามเพื่อใช้งาน ก็จำเป็นต้องพิจารณาจุดประสงค์ในการใช้งานประกอบเป็นสำคัญ

 

FM1100 GPS Tracker

รูปที่ 2 จีพีเอสสำหรับรถยนต์ รุ่น FM1100 จาก Teltonika

เมื่อดูจากสเปคของเครื่องแล้ว น่าใช้งานครับ ชิฟเซ็ตที่ใช้ก็ดูดีมีคุณภาพ เริ่มจาก GPS chip มีภาครับ 65 channel GPS receivers, และมีความไวถึง -161dBm
มี Input: 3 Digital inputs + 1 Analog input เพื่อใช้ตรวจวัดการสตาร์ทเครื่องยนต์ และวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊ส ที่มีย่านการวัด 10 Volt หรือ 30 Volt โอ้โห๋ range ในการวัดกว้างจริงๆ
แถมยังมี input สำหรับวัดเพื่อบ่งบอกตัวผู้ขับขี่ได้อีกด้วย โดยใช้ 1-Wire iButton ID key

รอรับไฟเลี้ยงได้ตั้งแต่ +10 ถึง +30 VDC ก็เรียกว่าเหลือๆ ครับสำหรับรถยนต์ ที่มีไฟ 12V. หรือ 24V. ในรถยนต์ขนาดใหญ่

รุ่นนี้มี motion sensor ในตัว เหมาะกับใช้งานในโหมดประหยัดพลังงาน และดูพฤติกรรมคนขับกรณีขัดรถฉวัดเฉวียน ดูแล้วน่าติดในรถขนส่งจริงๆ

ข้อดีของรุ่น FM1100 ยังมีอีกมาก ส่วนข้อเสียยังพบได้น้อย เนื่องจากยังเป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดปีนี้เอง (พ.ศ. 2555) จึงต้องรอให้ผ่านฝนผ่านหนาว เหมือนรุ่นพี่ก่อน

บทความหน้า ของจีพีเอสรุ่น FM1100 จะขอผ่าเครื่องให้ดูใส้ในกัน ว่ามีอะไรน่าสนใจ และรวมถึง Firmware ที่เป็นสมองของเครื่อง ดูว่าจะเก่งกาจ สมเป็นจีพีเอสจากค่ายยุโรป หรือไม่
โปรดติดตามชม!

 

เปรียบเทียบ จีพีเอสติดตาม ภาค 2

บทความโดย จีพีเอส แผนที่ไทย.คอม
GPS ติดตามรถยนต์ รุ่น MVT-340 กับ MVT-380

“จีพีเอส 2 รุ่นนี้ มันต่างกันตรงไหน? “
เป็นคำถามที่พบบ่อย สำหรับรุ่น MVT-340 กับ MVT-380
ซี่งทั้งสองรุ่นนี้ เป็นจีพีเอสติดตามรุ่นที่นิยมใช้กันแพร่หลาย และมีจำหน่ายกันในเมืองไทย สำหรับผู้จำหน่ายเครื่อง หรือผู้ที่มีข้อมูลทางด้านเทคนิค (Technical Specification) ของเครื่อง เมื่อศีกษาแล้ว คงเข้าใจได้ไม่ยากถึงความแตกต่าง

จีพีเอสทั้ง 2 รุ่นนี้ ได้มาตรฐาน CE, FCC ผลิตโดยโรงงานในประเทศจีน ที่ชื่อ Meitrack ซึ่งเป็นโรงงาน OEM ให้กับหลายผลิตภัณฑ์ทั้งในไต้หวัน และในต่างประเทศ
ปัจจุบัน (ปี พ.ศ. 2555) ยังไม่พบโรงงานลอกเลียนแบบ ดังเช่น รุ่น VT-310, TK-102, TK-103 หรือ GT-60 เป็นต้น

บทความ การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์นี้ ขอนำเสนอความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนี้ สองด้าน คือ ด้านรูปลักษณ์ภายนอก และด้านคุณสมบัติของเครื่อง

MVT-340 v.s. MVT-380 (Top view)

รูปที่ 1 ด้านบน ของเครื่อง MVT-340 กับ MVT-380

เริ่มต้นที่ ด้านรูปลักษณ์ภายนอก หากสังเกตุจาก รูปที่ 1 ด้านบน และ รูปที่ 2 ด้านหน้า ของเครื่องที่ปรากฏจะเห็นว่าไม่มีความแตกต่างกัน แต่เมื่อสังเกตุใน รูปที่ 3 ด้านหลัง จึงจะพบถึงความแต่งต่าง นั้นก็คือ
1. รุ่น MVT-380 มีช่องต่อสัญญาณ Input/ Output ที่มากกว่า MVT-340
2. รุ่น MVT-380 มีช่องต่อไมค์และลำโพง เพื่อใช้ในการสื่อสาร แบบ 2 ทิศทาง แต่ MVT-340 ไม่มี
3. ทั้ง 2 รุ่นมี Mini USB port สำหรับการตั้งค่าเหมือนกัน

MVT-340 v.s. MVT-380 (Front view)

รูปที่ 2 ด้านหน้าของเครื่อง รุ่น MVT-340 กับ MVT-380

จากรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็น ทำให้เราพอจะเดาได้ว่า จีพีเอสทั้ง 2 รุ่นนี้ ต้องมีความแตกต่างกันในทางคุณสมบัติและการใช้งานแน่นอน

MVT-340 v.s. MVT-380 (Back view)

รูปที่ 3 ด้านหลัง ของเครื่องรุ่น MVT-340 กับ MVT-380

ดูจากช่องต่อสัญญาณ Input/ Output ที่ต่างกัน ทำให้ รุ่น MVT-380 สามารถต่อสายสัญญาณเพื่อวัด หรือตรวจสอบสถานะต่างๆ ของรถยนต์ได้มากกว่า โดยมีทั้งหมด 5 Inputs (Digital) และ 2 Inputs (Analog) จึงเหมาะกับการวัดสถานะของรถ เช่น การสตาร์ทเครื่องยนต์ การเปิดแอร์ การวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ระดับแก๊ส NGV/LPG เป็นต้น
ส่วนในรุ่น MVT-340 ถึงแม้จะมี Input/ Output ที่น้อยกว่า แต่ก็อาจจะเพียงพอกับการใช้งานกับรถบางประเภท เช่น รถแท็กซี่ รถส่วนบุคคล เป็นต้น

ด้านความแต่งต่างทางคุณสมบัติของเครื่อง แบ่งย่อย เป็น 2 ส่วนหลัก ดังนี้
รุ่น MVT-380 มีหน่วยความจำภายในเครื่อง ทำให้สามารถจดจำตำแหน่ง และสถานะต่างๆ ของรถได้ แม้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรือ GSM และสามารถส่งข้อมูลต่างๆ ไปยังเครื่อง server เมื่อเครื่องสามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้ ข้อดีของจุดนี้ คือ ทำให้เจ้าของรถที่ติดตั้งรุ่นนี้ใช้งาน ไม่สูญเสียข้อมูล เมื่อรถไปอยู่ยังตำแหน่งที่อับสัญญาณโทรศัพท์
*** เนื่องจากทั้ง 2 รุ่นมีสายสัญญาณ Output จึงสามารถประยุกต์ใช้ สั่งดับเครื่องยนต์ ได้ทั้งคู่ ***

-รุ่น MVT-380 มีสายสัญญาณ Input/ Output ที่มากกว่า รุ่น MVT-340 ดังได้กล่าวมา ทำให้การนำไปประยุกต์ใช้งานได้กว้างขวางกว่า

จากความแตกต่างข้างต้น ก็ทำให้จีพีเอสทั้ง 2 รุ่น ถูกใช้งานได้แตกต่างกันไป และในส่วนราคาก็ต่างไปด้วยเช่นกัน ทั้งนี้การเลือกใช้งานจริงกับรถยนต์ของท่าน ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว รถบริษัท รถขนส่ง จึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาด้านคุณสมบัติของเครื่องเป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลาในการดำเนินการ และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น

แล้วคอยพบกับการผ่าเครื่องจีพีเอสแต่ละรุ่น ซึ่งจะมีทั้งเครื่องจากโรงงานในจีนและยุโรปมาฝาก ในบทความหน้าครับ

“วันนี้ท่านติดจีพีเอสรุ่นไหนอยู่? แล้วท่านใช้จ่ายในราคาที่สูงเกินไปหรือไม่? “

Download:
MVT-340 user guide.pdf
MVT-380 user guide.pdf

กรณีศึกษา: ระบบจีพีเอส กับ รถบริการ รับ-ส่ง พนักงาน

กรณีศึกษา: ระบบจีพีเอส กับ รถบริการ รับ-ส่ง พนักงาน
บทความโดย จีพีเอส แผนที่ไทย.คอม
Bus
การประยุกต์การใช้งานเครื่องจีพีเอสติดตามรถ (Vehicle GPS Tracker) และเครื่องแสดงความเร็ว (Speed Monitor) กับรถบริการสำหรับ รับ-ส่งพนักงาน ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ และนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด

หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบัน รถบริการ รับ-ส่งพนักงานมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีให้บริการทั้งบริษัทเอกชน หน่วยงานรัฐ และโรงงานต่างๆ โดยเฉพาะโรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรม

เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน และประชาชนผู้ใช้ถนนทั่วไป รถบริการรับ-ส่ง จำเป็นต้องมีผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญ มีความพร้อมในการขับขี่และมีความรับผิดชอบสูง เพราะเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ในส่วนของสภาพความพร้อมของรถบริการ ก็มีความจำเป็นไม่ต่างกัน

ความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการขับรถโดยประมาท และปราศจากความรับผิดชอบของผู้ขับขี่ คือ การเสียเวลาจากอุบัติเหตุ ความเสียหายของรถบริการ ความสึกหรอของเครื่องยนต์ การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงต้นทุนการบำรุงรักษาเครื่อง ยาง ช่วงล่าง เป็นต้น และที่สำคัญหากอุบัติเหตุมีความรุนแรง อาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินได้

การติดตั้งจีพีเอสติดตามรถ (Vehicle GPS Tracker) และเครื่องแสดงความเร็ว (Speed Monitor) เป็นการควบคุมความเร็วของรถ และพฤติกรรมของผู้ขับขี่ได้ทางหนึ่ง เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุและความสูญเสียดังกล่าว โดยความเร็วจำกัดอยู่ที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง

คุณสมบัติเบื้องต้นของอุปกรณ์
o เครื่องจีพีเอสติดตามรถ (Vehicle GPS Tracker)
MVT-380 เป็นเครื่องจีพีเอสติดตามรถ ที่ถูกเลือกใช้ในโครงการนี้ ซึ่งมีคุณสมบัติหลัก คือ สามารถบอกตำแหน่ง ความเร็ว และส่งข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ (GPRS) ไปยังเครื่องแม่ข่าย (File server) ในการเก็บข้อมูล และแสดงผล
สามารถส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น เช่น เครื่องแสดงความเร็ว ได้ด้วยเช่นกัน
o เครื่องแสดงความเร็ว (Speed Monitor)
เป็น อุปกรณ์แสดงความเร็ว รูปแบบตัวเลข 3 หลัก ใช้แสดงผลความเร็วที่ได้จากการคำนวณของดาวเทียม ผ่านเครื่องจีพีเอสติดตามรถ พร้อมอุปกรณ์เสียงและไฟแสดงผลเมื่อความเร็วเกินกำหนด ทำให้คนขับทราบว่าความเร็วจะเกินกำหนดแล้ว ในโครงการนี้กำหนดความเร็วในเครื่องแสดงความเร็วที่ 75 กม./ชม. เพื่อไม่ให้ความเร็วเกินกำหนดที่ 80 กม./ชม.

วิธีการและการดำเนินการ
o แผนภาพแสดงการต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
MVt-380 gps tracker and AGT Speed monitor

o การติดตั้ง
รถที่ถูกติดตั้ง เป็นรถบัส VIP สำหรับรับ-ส่งพนักงาน ขนาด 45 ที่นั่ง มีระบบไฟฟ้าแบบ 24 โวลท์

ช่าง ติดตั้งทำการติดตั้งและต่อสายไฟต่างๆ ตามแผนภาพข้างต้น โดยทำการติดตั้งเครื่องจีพีเอสก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงทำการติดตั้งเครื่องแสดงผล ในส่วนของภาคจ่ายไฟ จะทำการติดตั้งเป็นอุปกรณ์สุดท้าย และสิ่งสำคัญในการติดตั้งอุปกรณ์ในรถยนต์ประเภทนี้ คือ ฟิวส์ เพื่อป้องกันกระแสเกินที่อาจเกิดขึ้นได้ ไปทำอันตรายกับเครื่องจีพีเอสและอุปกรณ์ต่อพ่วง

o การทดสอบและประเมินผล
นำ รถที่ถูกติดตั้ง ไปทดสอบโดยการให้คนขับ ขับขี่ที่ความเร็วเกินกำหนด คือ 80 กม./ชม. พบว่าเมื่อความเร็วของรถที่ปรากฏ ณ เครื่องแสดงผล (Speed Monitor) แสดงเลข 75 หรือมากกว่า ทำให้เกิดเสียงดังขึ้นจากอุปกรณ์ต่อพ่วง (Buzzer) และหลอดไฟ LED สีแดงติดขึ้น
ผล จากเสียงที่ดัง และไฟ LED ติด ทำให้ผู้ขับขี่ถอนคันเร่ง ความเร็วลดลง และเมื่อความเร็วลดลงต่ำกว่า 75 กม./ชม. (สังเกตจากตัวเลขบนเครื่องแสดงผล) พบว่าเสียงและไฟ LED หยุด/ดับ ลง

ข้อสังเกตุ
จาก การทดสอบ ขณะที่ขับรถทดสอบ พบว่าเรือนไมล์ของรถคันที่ถูกติดตั้ง แสดงผลไม่ตรงกับเครื่องแสดงผล โดยมีการแสดงความเร็วที่น้อยกว่าความเป็นจริง เช่น แสดงความเร็วที่ 55 กม./ชม. ในขณะที่ความเร็วจากเครื่องแสดงผลอยู่ที่ 70กม./ชม. ทางทีมงานจึงได้นำรถยนต์ส่วนบุคคลทำการวิ่งเปรียบเทียบ ซึ่งได้ความเร็วของรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใกล้เคียงกับเครื่องแสดงผล
อาการที่ปรากฏข้างต้น ถูกเรียกโดยทั่วไปว่า อาการ “ไมล์แข็ง” อันมีสาเหตุหลายประการ เช่น ขนาดของล้อและยาง การประกอบรถ ซึ่งรถบัสส่วนใหญ่เป็นรถประกอบในประเทศ ใช้เครื่องยนต์และเรือนไมล์ต่างรุ่นกัน จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เราทราบว่าไมล์ของรถบัสหรือรถบรรทุกส่วนใหญ่ไม่มีความเที่ยงตรง ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุหากคนขับดูความเร็วจากไมล์รถที่เป็น “ไมล์แข็ง”

ประโยชน์ที่ได้รับ
o เจ้าของ – บริษัทรถบริการ
-สามารถควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับรถ ผ่านทางโปรแกรมและแสดงผลในตัวรถบริการ
-ทำให้ทราบถึงการใช้เส้นทางของคนขับ เช่น ขับใช้เส้นทางที่กำหนดหรือไม่ ขับรถในเส้นทางอันตรายที่ไม่มีไหล่ทาง หรือขับออกนอกบริเวณที่กำหนด เป็นต้น
-สามารถทราบถึง การจอด/หยุดรถ ในการรับ-ส่ง ในแต่ละวัน หรือดูย้อนหลัง ในวันที่มีปัญหาได้ เช่น กรณีคนขับจอดไม่ตรงจุด หรือออกก่อนเวลารับ-ส่ง เป็นต้น
-ลดการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานต่อคันสูง ไม่เสียเวลาการซ่อมแซม
-เมื่อเกิดอุบัติเหตุ สามารถทราบสถานที่เกิดเหตุได้ทันที ทำให้ส่งรถสำรอง หรือเดินทางไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที
-ประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับรถบริการ เช่น ค่าซ่อมบำรุง เครื่อง ยาง ช่วงล่าง เป็นต้น
-แสดงถึงความเอาใจใส่ในความปลอดภัย ต่อลูกค้า ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร ลูกค้าพึงพอใจในการให้บริการ เพิ่มโอการในการได้งานและการต่อสัญญาบริการ

o ลูกค้า – โรงงานผู้ใช้บริการ
-ทราบถึงพฤติกรรมการขับขี่ของรถบริการ กรณีบริษัทรถบริการอนุญาตให้ใช้โปรแกรมควบคุม
-สามารถทราบถึง การจอด/หยุดรถ ในการรับ-ส่ง ในแต่ละวัน หรือดูย้อนหลัง ในวันที่มีปัญหาได้ เช่น กรณีคนขับจอดไม่ตรงจุด หรือออกก่อนเวลารับ-ส่ง เป็นต้น
-เพิ่มความปลอดภัย เพิ่มสวัสดิภาพแก่พนักงาน และลดอุบัติเหตุจากการรับ-ส่ง พนักงาน
-เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การผลิต อันเกิดจาก รับ-ส่ง พนักงานตรงเวลา ปราศจากอุบัติเหตุ
-สามารถวางแผนเส้นทาง กำหนดเส้นทาง บริการรับ-ส่ง พนักงาน ในแต่ละสายได้
-ข้อมูลต่างๆ สามารถส่งออกในรูปแบบไฟล์ MS-Excel เพื่อนำไปใช้ต่อไปได้

จาก กรณีศึกษาข้างต้น จีพีเอสติดตามรถ (Vehicle GPS Tracker) ยังสามารถประยุกต์ได้ในรูปแบบอื่น เพื่อธุรกิจต่างๆ อีกมาก เช่น รถขนส่งสินค้า รถเช่า รถในพื้นที่จำกัดความเร็ว รถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อมีการใช้งานร่วมกับโปรแกรมจีพีเอสจัดการรถ (GPS Tracking Software) แล้ว จะได้ประโยชน์เพิ่มเติมและประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าการใช้เพียงเครื่องติดตาม แบบเดียว (Stand Alone) เท่านั้น ซึ่งจะได้มีการนำเสนอต่อไป

วิทยา พันธ์เมือง
โทร. 081-932-3520
จีพีเอส โดย แผนที่ไทย.คอม
24 มิ.ย. 54

เปรียบเทียบ จีพีเอสติดตาม แต่ละรุ่น ภาค 1

เปรียบเทียบขนาด จีพีเอสติดตาม แต่ละรุ่น ภาค 1

จากรูปภาพ ประกอบไปด้วยจีพีเอสติดตาม รุ่นต่างๆ ดังนี้ โดยเริ่มจากซ้ายไปขวา
PMT-80, PTK-102, PGT-30/PGT-30X, PGT-60, PTK-402 และ PVT-310

เปรียบเทียบ จีพีเอสติดตาม แต่ละรุ่น

จากรูป มีเพียงรุ่นเดียวที่ใช้สำหรับรถยนต์ คือ รุ่น PVT-310 (ตัวสีฟ้า)
ส่วนรุ่นที่นิยมใช้งานกันมากคือ PTK-102 บางโรงงานเรียกว่า TK-102 ซึ่งมีทั้งเครื่อง Original และเครื่อง Copy จากโรงงาน
*** ข้อสังเกตุของเครื่อง Copy คือ เมื่อใส่แบตเตอรี่แล้วจะปิดฝาเครื่องได้ไม่สนิท ***

ส่วนอีกรุ่นที่มีคุณภาพแต่ราคาแพง คือ PGT-60 หรือ GT-60 โดยรุ่นนี้จะมี Protocol การส่ง-รับ ข้อมูลที่มีมาตรฐานของ GPS Gate ให้เลือกใช้งานด้วย จะใช้แบบ SMS หรือ Real-time tracking ก็ได้ และข้อดีของรุ่นนี้คือ แบตเตอรี่ สามารถใช้งานกับแบตฯรุ่นเดียวกับโทรศัพท์ Nokia 3310 เรียกแบตฯ รุ่นนี้ว่า BL-5CA ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายโทรศัพท์ทั่วไป และมีขนาดความจุไฟ มากถึง 1,200mAh น่าใช้กับงานที่ต้องการเวลา standby นานๆ จ้า